บอร์ด PLANET ไฟเขียวเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน PP ให้นลท. 2 ราย รวม 50 ล้านหุ้น
คณะกรรมการ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET อนุมัติเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 50 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด จำนวน2 ราย ในราคาหุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการขยายการลงทุน บิ๊กบอส “ประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์” เผย ธุรกิจ New S-Curve ของบริษัทฯเริ่มสร้างผลตอบแทน หนุนผลงานครึ่งแรกของปีขาดทุนลดลง มั่นใจจะพลิกเป็นกำไรได้ในทึ่สุด
นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติการออก การจัดสรรและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) จำนวน 50 ล้านหุ้น ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ครั้งที่ 1 แก่นักลงทุน 2 ราย ในราคาหุ้นละ 0.50 บาท โดยจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้จำนวน 25 ล้านหุ้น ให้แก่นายศักดิ์ชัย วัฒนนามกุล และจัดสรรจำนวน 25 ล้านหุ้น ให้แก่ Mr.Maarten Cornelis
“การออกและเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะสามารถทำให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนได้ภายในระยะสั้น สามารถนำมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินของบริษัทฯและบริษัทย่อย สำหรับการประกอบธุรกิจ การลงทุนหรือขยายธุรกิจในอนาคตได้อย่างทันกาล รวมทั้งส่งผลให้โครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯมีความแข็งแกร่งมากขึ้น” นายประพัฒน์กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้มีมติอนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัท 157,468,273 บาท จากทุนเดิม 687,139,173 บาท เป็น 529,670,900 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท และมีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 529,670,900.00 บาท เป็น 579,670,900.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวนไม่เกิน 50,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบ General Mandate โดยจะจัดสรรเพื่อเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement)
นายประพัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นการลงทุนในโครงการใหม่ๆในธุรกิจ New S-Curve อยู่ระหว่างเริ่มให้ผลตอบแทนอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยจะเห็นได้จาก ผลประกอบการในครึ่งแรกของปี 2567 ตัวเลขการขาดทุนเริ่มลดลง โดยในครึ่งแรกของปีนี้บริษัทฯ มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 28.91 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 44.99 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นพัฒนาการที่ดี ทั้งนี้ มั่นใจว่าผลจากการขยายการลงทุน จะส่งผลให้บริษัทฯสามารถพลิกกลับมาเป็นมีกำไรได้ในที่สุด