PLANET ผนึก 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ ลงนาม MOU ขับเคลื่อน 5G สร้างอุตสาหกรรมใน EEC

PLANET ผนึก 3 พันธมิตรยักษ์ใหญ่ด้านนวัตกรรมระดับโลก ซิสโก้ – มาเวเนีย -5จีซีที ลงนาม MOU ร่วม เดินหน้าพัฒนาทักษะบุคลากรด้านดิจิทัล ขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G สร้างอุตสาหกรรม 4.0 ในพื้นที่ อีอีซี  บิ๊กบอส “ประพัฒน์” ลั่นเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่อง มั่นใจ 2-3 ปีจากนี้โตแกร่ง

นายประพัฒน์ รัฐเลิศกานต์ กรรมการผู้อำนวยการ และหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANET เปิดเผยว่า  เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ที่ผ่านมา มร.ไมเคิล ฮีธ อุปทูต รักษาการแทน เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ได้ร่วมเป็นประธานและสักขีพยาน ในพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) “การพัฒนาทักษะบุคลากร เพื่อส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และ 5G แก่ภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี (5G & Digital Talent Development in EEC)” โดย ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ อีอีซี เป็นผู้ร่วมลงนาม กับบริษัท แพลนเน็ต คอมมิวนิเคชั่น เอเชีย จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด , บริษัท 5จี แคททะลิซท์ เทคโนโลยีส์ จำกัด ,และบริษัท มาเวนเนีย ซิสเท็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นายประพัฒน์ กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ จะสามารถสร้างฐานความรู้และแพลตฟอร์มสำหรับ Smart City Data Platform และ IOT Platform ซึ่งมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเทคโนโลยี 5G และเป็นศูนย์กลางแห่งการเรียนรู้ ด้านเทคโนโลยี และการลงทุนในพื้นที่อีอีซี  ซึ่งบริษัทฯในฐานะที่มีความรู้ความชำนาญด้าน Digital และการสื่อสารโทรคมนาคม มาเกือบ 30 ปี พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาพัฒนาคนชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และภาคอุตสาหกรรมให้มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นในทุกด้าน

“ เทคโนโลยีจะไม่มีความหมายอะไรเลย ถ้าเราไม่พัฒนาคน ซึ่งความร่วมมือในครั้งนี้ บริษัทฯมีความยินดี ที่มีส่วนร่วมนำเทคโนโลยีความรู้และความเชี่ยวชาญมาพัฒนา เพิ่มทักษะให้บุคลากรทั้งภาครัฐและเอกชน ให้มีความรู้ทางด้าน Digital Infrastructure อาทิ Building, AI , IoT, Robotic, Data, Bigdata หรือการใช้เทคโนโลยีทาง Digital ต่างๆ มาพัฒนาความเป็นอยู่ชีวิตคน Smart City, Smart Industries, Smart Healthcareและมีส่วนช่วย ทำให้เป้าหมายในการพัฒนาคนของ อีอีซี ประสบผลสำเร็จ

สำหรับแนวโน้มธุรกิจของบริษัทฯ นายประพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ อยู่ในช่วงของการเดินหน้าขยายอย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีกลุ่มระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านไซเบอร์ (Cyber Security)  ที่ปัจจุบันตลาดมีการเติบโตสูง ธุรกิจในกลุ่มสินค้าด้านเทคโนโลยี 5จี อาทิ Cloud Computing, IoT Platform, CCTV/Video Analytics, Data Center, Telemedicine และ Energy ผ่านโครงข่ายสื่อสาร 5G ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งรวมถึงธุรกิจใหม่เกี่ยวกับบริหารจัดการให้บริการผลิตนํ้าประปาและไฟฟ้าเพื่อจำหน่ายด้วย  ทั้งนี้ มั่นใจว่าผลจากการดำเนินงาน จะส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2564 นี้ ออกมาเป็นที่น่าพอใจ และสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในอีก 2-3 ปีจากนี้